Pitching Project

Student Research to Business

กิจกรรม Pitching Project : Student Research to Business มีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนแต่ละคู่ศูนย์มีโอกาสพัฒนาทักษะการนำเสนอผลงานที่กระชับ ชัดเจน เข้าใจ และโน้มน้าวกรรมการประเมินและผู้ฟังให้เชื่อว่าผลงานดังกล่าวมีแนวทางต่อยอดไปในเชิงธุรกิจได้ตามมุมมองของผู้จัดทำผลงาน

1) การดำเนินการจัดกิจกรรม

รายละเอียด รอบคัดเลือก
Qualifying Round
รอบรองชนะเลิศ
Semifinal Round
รอบสุดท้าย
Final Round
ผลงาน วิดีโอผลงาน 3 นาที สไลด์นำเสนอผลงาน สไลด์นำเสนอผลงานหรือผลงานจริง
การนำเสนอผลงานของนักเรียน - นำเสนอ 3 นาที ตอบข้อซักถาม 5 นาที นำเสนอ 3 นาที ตอบข้อซักถาม 5 นาที
กรรมการตัดสิน กรรมการตัดสิน 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน (ขึ้นอยู่กับจำนวนผลงาน) กรรมการตัดสิน 3-5 คน กรรมการตัดสิน 3-5 คน (ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ รอบรองชนะเลิศ)
วันที่จัดกิจกรรม 14 – 16 มีนาคม 2568(VDO) 5 เมษายน 2568 (Zoom) 27 เมษายน 2568 (Onsite)

2) เงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรม

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมต้องได้รับประกาศนียบัตรของบทเรียนเกี่ยวกับ Pitching โดยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเสนอบทเรียนออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชื่อ : ESD1002 Pitching Technique ลิงก์ : https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/198/info

วิดีโอสาธิตการเข้าบทเรียนออนไลน์ Pitching Technique ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

3) กำหนดการสำคัญ

วันที่ กิจกรรม
3 – 15 มกราคม 2568 (เปิดระบบรอบที่ 2) ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม
3 มกราคม 2568 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเข้าอบรมบทเรียนออนไลน์
1 – 7 มีนาคม 2568 ส่งลิงค์วิดีโอ YouTube ความยาวไม่เกิน 3 นาที และประกาศนียบัตรการอบรมออนไลน์
14 – 16 มีนาคม 2568 รอบคัดเลือก (Qualifying Round) กรรมการคัดเลือกผลงาน 15-16 ผลงานวิดีโอเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
5 เมษายน 2568 การนำเสนอรอบรองชนะเลิศ (Semifinal Round) ผ่าน Zoom Meeting คัดเลือกผลงาน 5 ผลงานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ (นำเสนอ 3 นาที ตอบคำถาม 5 นาที)
27 เมษายน 2568 การนำเสนอรอบชิงชนะเลิศ (Final Round) (นำเสนอ 3 นาที ตอบคำถาม 5 นาที)
แนวทางการจัดทำวิดีโอและสื่อนำเสนอผลงาน

การจัดทำสื่อนำเสนอให้นักเรียนออกแบบลำดับและวิธีการเล่าเรื่องด้วยตนเอง การจัดทำวิดีโอสามารถตัดต่อวิดีโอได้ เน้นนำเสนอแนวคิดการพัฒนาต่อยอดเป็นหลัก และมีสรุปใจความสำคัญของโครงงานสนับสนุนแนวคิด มีเนื้อหาครอบคลุมข้อมูลที่สำคัญดังต่อไปนี้

1) แนวคิด/องค์ความรู้/ผลงาน/ชิ้นงาน ที่นำเสนอคืออะไร
2) ผลงานนี้แก้ปัญหาอะไร
3) กลุ่มเป้าหมาย หรือใครคือผู้ที่สามารถนำผลงานไปใช้หรือประยุกต์ใช้ได้
4) คุณค่าของงานที่จะสามารถส่งต่อให้ผู้ใช้คืออะไร
5) ทรัพยากรหรือองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมือขณะปัจจุบัน
6) สามารถต่อยอดองค์ความรู้หรือผลงานในเชิงธุรกิจได้หรือไม่
7) อัพโหลดผลงานผ่าน YouTube และคัดลอกลิงค์หรือ URL เพื่อส่งในระบบเว็บไซต์ของกิจกรรมพิเศษ
หมายเหตุ
1.การจัดทำวิดีโอจะต้องเป็นแบบไม่ระบุชื่อนักเรียนและชื่อหน่วยงาน (Anonymous) เพื่อป้องกันความลำเอียงในการตัดสิน
2. ตั้งชื่อหัวข้อให้น่าสนใจ ไม่ใช้ชื่อเดียวกันกับชื่อโครงงาน สามารถนำไอเดียการ pitching มาจากหลายโครงงานได้
3. สามารถตั้งกลุ่มใหม่ได้ สมาชิกในทีมไม่จำเป็นต้องตรงกับสมาชิกที่อยู่ในทีมของโครงงาน
การนำเสนอผลงานรอบคัดเลือก (Qualifying Round)

คณะกรรมการจะพิจารณาผลงานวิดีโอนำเสนอ Idea Pitching ความยาว ไม่เกิน 3 นาที ระหว่างวันที่ 14 – 16 มีนาคม 2568 เพื่อคัดเลือกผลงานจำนวน 15 – 16 ผลงาน เพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ (Semi-Final Round) ทั้งนี้ กรรมการจะต้องไม่ประเมินผลงานของนักเรียนจากคู่ศูนย์โครงการ วมว. ที่อยู่ในสังกัดมหาวิทยาลัยเดียวกันกับกรรมการ

การนำเสนอผลงานรอบรองชนะเลิศ (Semi-Final Round)

นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบคัดเลือกจำนวน 15 - 16 โครงงานเข้าสู่การนำเสนอผลงานรอบตัดสิน/ชิงชนะเลิศ ในวันที่ 5 เมษายน 2568 แต่ละกลุ่มต้องนำเสนอแบบปากเปล่าด้วยภาษาไทยภายในเวลา 3 นาที ออนไลน์ผ่าน Zoom Meeting พร้อมใช้สื่อประกอบการนำเสนอให้พอเหมาะกับระยะเวลา (หากเกินระยะเวลาดังกล่าวคณะกรรมการจะปิดไมค์เพื่อหยุดการนำเสนอ) และคณะกรรมการ (3 - 5 คน) ใช้เวลาซักถาม 5 นาที ซึ่งลำดับการนำเสนอจะใช้วิธีสุ่มเลือกในวันนำเสนอจริง

การนำเสนอผลงานรอบตัดสิน/ชิงชนะเลิศ (Final Round)

นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบคัดเลือกจำนวน 5 โครงงานเข้าสู่การนำเสนอผลงานรอบตัดสิน ในวันที่ 27 เมษายน 2568 แต่ละกลุ่มต้องนำเสนอแบบปากเปล่าด้วยภาษาไทยภายในเวลา 3 นาที พร้อมใช้สื่อประกอบการนำเสนอให้พอเหมาะกับระยะเวลา (หากเกินระยะเวลาดังกล่าวคณะกรรมการจะปิดไมค์เพื่อหยุดการนำเสนอ) และคณะกรรมการ (3 - 5 คน) ใช้เวลาซักถาม 10 นาที ซึ่งลำดับการนำเสนอจะใช้วิธีสุ่มเลือกในวันนำเสนอจริง

แนวทางการนำเสนอ
1) เน้นการนำเสนอแนวความคิดพัฒนาต่อยอดจากโครงงานที่จัดทำที่เป็นไปได้บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง
2) จูงใจให้กรรมการตัดสินและผู้ฟังมีความเชื่อมั่นว่าแนวคิดดังกล่าวสามารถเป็นไปได้
3) นำเสนอน่าสนใจ สั้น กระชับ ชัดเจน และเข้าใจง่าย
4) มีข้อมูลรอบด้านสนับสนุนแนวความคิดที่นำเสนอ
5) การตอบคำถามที่ตรงประเด็น กระชับ และมั่นใจ
เกณฑ์การตัดสิน
รอบคัดเลือก (Qualifying Round) การตัดสินรอบ Pitching Project รอบคัดเลือก (Qualifying Round) จะมีกรรมการ 3 ท่าน ประเมินผลการนำเสนอผ่านวิดีโอผลงานความยาวไม่เกิน 3 นาที ทางระบบเว็บไซต์แบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous) โดยการตัดสินจะใช้การให้คะแนนแบบ Rubric ประกอบด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
เกณฑ์การประเมินรอบคัดเลือก (Qualifying Round) คะแนนเต็ม
เกณฑ์ที่ 1 : ความสมบูรณ์และความน่าสนใจของสื่อที่นำเสนอ
  • ความสมบูรณ์และความชัดเจนของเนื้อหา
  • การออกแบบและความดึงดูดของเนื้อหา
  • การสื่อสารภาพรวมของโครงการ
10
เกณฑ์ที่ 2 : การลำดับเรื่องราว
  • การเปิดเรื่องที่น่าสนใจ
  • ความต่อเนื่องของเรื่องราว
  • การสื่อสารภาพรวมของโครงการ
25
เกณฑ์ที่ 3 : ความสามารถในการโน้มน้าวใจด้วยคำพูด
  • วิธีการในการสื่อสาร
  • การโน้มน้าวด้วยหลักวิชาการ
  • การใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม
  • น้ำเสียง การสื่อสารอารมณ์ และบุคลิกภาพในการนำเสนอ
30
เกณฑ์ที่ 4 : ประโยชน์หรือโอกาสในการต่อยอดผลงานไปใช้ในทางอุตสาหกรรมหรือพาณิชย์
  • ศักยภาพในการพัฒนาต่อยอด
  • ประโยชน์ต่อวิทยาศาสตร์หรืออุตสาหกรรมหรือสังคม
  • ความสามารถในการต่อยอดเชิงพาณิชย์
30
เกณฑ์ที่ 5 : การใช้เวลานำเสนออย่างคุ้มค่า
  • การจัดสรรเวลาในการนำเสนอ
  • การใช้เวลาอยู่ในกรอบที่กำหนด
5
รวม 100
รอบรองชนะเลิศ (Semifinal Round) และรอบชิงชนะเลิศ (Final Round) เกณฑ์การประเมินใช้การให้คะแนนแบบ Rubric ประกอบด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
เกณฑ์การประเมินรองชนะเลิศ (Semifinal Round) และรอบชิงชนะเลิศ (Final Round) คะแนนเต็ม
เกณฑ์ที่ 1 : ความสมบูรณ์และความน่าสนใจของสื่อที่นำเสนอ
  • ความสมบูรณ์และความชัดเจนของเนื้อหา
  • การออกแบบและความดึงดูดของเนื้อหา
  • การสื่อสารภาพรวมของโครงการ
15
เกณฑ์ที่ 2 : การลำดับเรื่องราว
  • การเปิดเรื่องที่น่าสนใจ
  • ความต่อเนื่องของเรื่องราว
  • การสื่อสารภาพรวมของโครงการ
15
เกณฑ์ที่ 3 : ความสามารถในการโน้มน้าวใจด้วยคำพูด
  • วิธีการในการสื่อสาร
  • การโน้มน้าวด้วยหลักวิชาการ
  • การใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม
  • น้ำเสียง การสื่อสารอารมณ์ และบุคลิกภาพในการนำเสนอ
30
เกณฑ์ที่ 4 : ประโยชน์หรือโอกาสในการต่อยอดผลงานไปใช้ในทางอุตสาหกรรมหรือพาณิชย์
  • ศักยภาพในการพัฒนาต่อยอด
  • ประโยชน์ต่อวิทยาศาสตร์หรืออุตสาหกรรมหรือสังคม
  • ความสามารถในการต่อยอดเชิงพาณิชย์
25
เกณฑ์ที่ 5 : การใช้เวลานำเสนออย่างคุ้มค่า
  • การจัดสรรเวลาในการนำเสนอ
  • การใช้เวลาอยู่ในกรอบที่กำหนด
5
เกณฑ์ที่่ 6: การตอบคำถาม (5 นาที)
  • การตอบคำถามได้ตรงประเด็นและข้อมูลน่าเชื่อถือ
  • การตอบคำถามได้ฉับไวและมั่นใจ
  • การตอบคำถามบนหลักการของเหตุและผล
10
100